วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

บุญชัย เบญจรงคกุล "คัมแบ็กธุรกิจมือถือ เท 300 ล้าน ปั้น"แอป"ลุย3G

"บุญชัย เบญจรงคกุล" คัมแบ็กธุรกิจมือถือรับ 3G ทุ่ม 300 ล้านเปิด "รักบ้านเกิด" ลุย "อีมาร์เก็ตเพลซ" เปิดตัวเสิร์ชเอ็นจิ้น-แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผนึกเครือข่ายวิทยุชุมชนทั่วประเทศ เพิ่มโอกาสเกษตรกรไทยเข้าถึงตลาด ยึด "อาลีบาบา" โมเดลต้นแบบ เผยปัญหาดีแทคเป็นต่างด้าว ต้องแยกผู้ถือหุ้นกับบริษัท

นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ บริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตนได้ลงทุนเปิดบริษัทใหม่ชื่อ "รักบ้านเกิด" ทำอีมาร์เก็ตเพลซและเสิร์ชเอ็นจิ้น จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับเว็บอีคอมเมิร์ซชื่อดัง "อาลีบาบา" www.alibaba. com แต่เน้นเรื่องอาหารเป็นหลัก เพราะเมืองไทยเปรียบได้กับครัวของโลก มี พืชผล และสินค้าเกษตรที่สามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อีกมาก แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงตลาด

โดยจะพัฒนา "แอปพลิเคชั่น" ที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนระบบต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน, แบล็คเบอร์รี่ หรือแอนดรอยด์ โดยมีการเชื่อมโยงฐานข้อมูล และคอนเทนต์ต่าง ๆ จากเว็บไซต์รักบ้านเกิดดอตคอม (www. rakbankerd.com) เครือข่ายวิทยุ ชุมชนร่วมด้วยช่วยกันทั้ง 77 จังหวัด รวมถึงสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นที่มีอยู่เดิม มีกำหนดเปิดตัวเป็นทางการในวันที่ 24 ธ.ค.นี้

"อีมาร์เก็ตเพลซจะต่อระหว่างเว็บ รักบ้านเกิดกับแอปพลิเคชั่นที่กำลังทำ ในแอปจะมีหลายส่วน ถ้าจะวางแผนจ่ายกับข้าวก็เข้าไปดูราคาได้ว่าอะไรเท่าไร ข่าวก็มีจากสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น มีคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์เพลง หนัง สารคดี หรือถ้าจะขายสินค้าก็ได้ เราปรับมาไลฟ์สไตล์มากขึ้น เพราะไม่ได้ มุ่งไปที่เกษตรกรอย่างเดียว แต่มอง กลุ่มคนใช้สมาร์ทโฟนทั่วไปด้วย โดยจะทำเป็นฟรีแอปให้โหลดได้หมด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าดีแทค เอไอเอส หรือทรูมูฟ"

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่เข้าเว็บไซต์รักบ้านเกิด และกลุ่มคนฟังรายการวิทยุชุมชนร่วมด้วยช่วยกันส่วนใหญ่จะเป็นเกษตร ซึ่งอาจไม่ชำนาญด้านเทคโนโลยี ทั้งในแง่การดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่น รวมถึงการโพสต์รูปสินค้าบนเว็บ ดังนั้น ดีเจ.รายการวิทยที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัดจึงจะคอย ช่วยดาวน์โหลดแอปให้ และจะเปิด คอลเซ็นเตอร์ 1677

ซึ่งจะต่างไปจากคอลเซ็นเตอร์ทั่วไป เพราะไม่ได้มีหน้าที่แค่ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์เท่านั้น แต่จะพัฒนาเป็น "แอ็กเคานต์ออฟฟิศเซอร์" คอยดูแลสมาชิก

"2 ปีแรกจะเน้นตลาดในประเทศปีที่ 3 จะเริ่มแปลเว็บเป็นภาษาอื่น ๆ เพื่อบุกตลาดต่างประเทศ โมเดลของเราจะคล้ายกับอาลีบาบา คือเป็นเว็บกลางที่ให้คนเข้ามาซื้อขายสินค้า แต่เราไม่เก็บค่าสมาชิก เพราะเราจะทำเสิร์ชเอ็นจิ้นหน้าตาเหมือนกูเกิล แต่เน้นเฉพาะฟู้ดอย่างเดียว รายได้ของเราก็จะมาจากโฆษณาแต่ไม่ใช่แบนเนอร์นะ เป็นการแรงกิ้งเหมือนกูเกิล ถ้ามีคนมาเสิร์ชหาสินค้าแล้วหน้าเพจคุณเด้งขึ้นมาเป็นคนแรกก็ต้องเสียเงินให้เรา ถึงเวลานั้นแสดงว่าคุณขายของได้เยอะแล้ว"

สำหรับบริษัทรักบ้านเกิดที่ตั้งขึ้นใหม่ มีเงินลงทุนเบื้องต้นที่ 300 ล้านบาท เท่ากับช่วงที่ตั้งบริษัทดีแทค โดยบริษัทดังกล่าวตนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และนั่งบริหารธุรกิจด้วยตนเองในฐานะซีอีโอ สาเหตุที่ต้องตั้งบริษัทใหม่ เพราะทุกปีจะต้องมีการเพิ่มทุน ซึ่งเงินลงทุนที่ตั้งไว้ 300 ล้านบาท อาจไม่พอ เพราะต้องลงทุนติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพื่อเก็บ ข้อมูลเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนกรณี เฟซบุ๊กที่มีเซิร์ฟเวอร์เป็นหมื่น ๆ ตัว ถ้าคิดว่าตัวละห้าแสนก็ต้องใช้เงินหลายพันล้านบาทแล้ว

ปัจจุบันนายบุญชัยยังนั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เขาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการถือหุ้นของ เทเลนอร์ในดีแทค ซึ่งมีปัญหาถือหุ้นเกินกฎหมายกำหนดว่าอยากให้แยกประเด็นระหว่างผู้ถือหุ้นกับบริษัท เพราะถ้าผู้ถือหุ้นมีปัญหาก็ต้องแก้ที่ตัวผู้ถือหุ้น ไม่เกี่ยวกับบริษัทแต่อย่างใด บริษัทเองยังคงดำเนินการประกอบธุรกิจและดูแลลูกค้าได้ตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ส่วนของผู้ถือหุ้นเองถ้ามั่นใจว่าทำถูกต้องก็สู้ไป

หากในอนาคตผู้ถือหุ้นจำเป็นต้อง ลดสัดส่วนหุ้นลง หากต้องการให้ตนเข้าไปซื้อหุ้นก็คงต้องบอกว่าคงช่วยเท่าที่ช่วยได้ เพราะตนก็อยากให้บริษัทดำเนินธุรกิจและเติบโตต่อไป เพราะธุรกิจของ ดีแทคให้บริการประชาชน และถ้ายังอยู่ก็จะทำให้ตลาดและการแข่งขันมีความสมดุลมากขึ้น เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคมากกว่า

"เราต้องยอมรับว่าจริง ๆ แล้วธุรกิจมือถือในโลกนี้ที่ยังเป็นของแฟมิลี่ไม่มีแล้ว อาจเหลือบ้างในประเทศที่การ แข่งขันยังไม่เปิดเต็มที่ อย่างบ้านเรามี 3 บริษัทดีกว่าเหลือ 2 ไม่ว่าดีแทค เอไอเอส หรือทรู ใครแพ้ไปหรือมีปัญหาก็ไม่ดีกับผู้บริโภค"


อ้างอิงข้อมูลข่าว : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1312606214&grpid=00&catid=06

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ตำนานวีรกรรม "ขุนรองปลัดชู"


กรุงศรีอยุธยา ( พ.ศ.2302 2303 ) สมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์พระเจ้าอลองพญาทราบเหตุว่ากรุงศรีอยุธยาผลัดแผ่นดินจึงได้ยกกองทัพเข้าตีเมืองมะริด และเมืองตะนาวศรี หัวเมืองของกรุงศรีอยุธยา โดยอ้างเหตุว่าให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏมอญ เมื่อยึดได้เมืองมะริดและเมืองตะนาวศรีแล้ว พระเจ้าลองพญาก็ได้เคลื่อนทัพผ่านทางด่านสิงขร เพื่อเข้าตีกรุงศรีอยุธยาต่อไป ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาทราบเรื่อง พระเจ้าทัศน์ได้รับสั่งให้พระยายมราชคุมพลเป็นทัพหน้าออกมาต่อกรกับทัพพม่าที่ด่านสิงขร และให้พระยารัตนาธิเบศเป็นแม่ทัพคุมพลเข้ามาตั้งรับทัพพม่า ที่เมืองกุยบุรี ขณะนั้น ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษชัยชาญ เป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในการรบ และคงกระพันชาตรี เข้ามารับอาสากับไพร่สี่ร้อยคน ขอไปรบกับพม่า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นกองอาทมาต (หน่วยรบพิเศษ) ร่วมทัพมากับพระยารัตนาธิเบศ ทัพของพระยายมราช เข้าปะทะกับทัพของพม่าที่เมืองแก่งตุมด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยรุ่นไม่เป็นขบวน พระยารัตนาธิเบศตั้งค่ายมั่นอยู่ ณ เมืองกุยบุรี แจ้งว่าทัพพม่ายกพลมาเป็นจำนวนมาก อาจต้านทานไว้ไม่ไหว จึงสั่งการให้เกณฑ์ไพร่พล และเร่งอพยพผู้คนหลบหนีพม่า และหวังรวบรวมผู้คนเพื่อไปตั้งมั่นรับพม่าที่ชานพระนคร ครั้งนั้น ขุนรองปลัดชู ได้อาสาขอต้านทานทัพพม่าด้วยกำลังพลเพียงสี่ร้อยนาย เพื่อยันทัพข้าศึกและเปิดทางให้รี้พลได้หลบหนี พระยารัตนาธิเบศ จึงได้แบ่งไพร่ให้อีกห้าร้อยนายไปช่วยกองกำลังของขุนรองปลัดชู ในการต่อต้านทัพพม่า



ณ ชายหาดหว้าขาวชายทะเล (บ้านทุ่งหมากเม่า ตำบลอ่าวน้อย) เวลาเช้าตรู่ ขุนรองปลัดชูพร้อมกับเหล่าทหาร ตั้งท่ารอทัพพม่าอยู่ด้วยจิตใจห้าวหาญ เมื่อเห็นกองทัพพม่าก็กรูกันออกโจมตีทัพหน้าของพม่ารบกันด้วยอาวุธสั้นถึงตะลุมบอนกัน แทงพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก และตัวขุนรองปลัดชูท่านถือดาบสองมือ วิ่งเข้าท่ามกลางข้าศึก ฟันพม่าล้มตายก่ายกองดั่งขอนไม้ ด้วยกำลังพลเก้าร้อยต่อทัพพม่านับหมื่นที่ยัดเยียดหนุนเนื่องกันเข้ามาต่อรบได้รบกันอยู่ตั้งแต่เข้าจนถึงเวลาเที่ยง ขุนรองปลัดชูไม่คิดถอยหนี ต่อสู้ทัพพม่าจนเหนื่อยอ่อนสิ้นกำลัง ถูกกองทัพพม่าใช้พลทัพช้างขับช้างเข้าเหยียบจนล้มตาย ต่างพากันถอนร่นลงทะเล จนจมน้ำทะเลตายเสียสิ้น กองทัพพม่าจึงมีชัย พระยารัตนาธิเบศจึงได้เร่งเลิกทัพหนีมากับทัพพระยายมราช กลับมาถึงพระนครขึ้นเฝ้ากราบทูลว่า ศึกพม่าเหลือกำลังจึงพ่ายฝ่ายทัพพม่าเมื่อมีชัยเหนือกองทหารเก้าร้อยคน ก็เหนื่อยอ่อนหยุดทัพพักผ่อน ก่อนเดินทัพเข้าเมืองกุย เมืองปราณ เมืองชะอำ เมืองเพชรบุรี เมืองราชรี เมืองสุพรรณบุรี โดยไม่มีหัวเมืองใดต่อรบกับพม่าเลย และต่อมาชาววิเศษชัยชาญ ได้ร่วมกันสร้างวัดสี่ร้อยเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ตราบจนถึงปัจจุบัน



ในบันทึกของพม่าในกาลต่อมากล่าวว่า การตีกรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ได้มีการต่อสู้กองทัพของกรุงศรีอยุธยา ที่ช่องเขาแคบๆ ริมทะเลอย่างประจัญบาน ดุเดือด ก่อนเข้าเมืองกุย เมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี โดยง่ายหากกองทัพกรุงศรีอยุธยา มีคนอย่างขุนรองปลัดชู ไหนเลยเราจะเสียกรุงศรีอยุธยา และหากคนประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่รู้จักวีรกรรมที่หาดหว้าขาว ไหนเลยวิญญาณของนักรบไทย จะได้รับการยกย่องความดี ความกล้า ความเสียสละต่อชาติ ต้องไม่ถูกลืม ขอยกย่องวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ณ ดินแดนเมืองประจวบคีรีขันธ์


ขุนรองปลัดชู : เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ สุขุม รอบคอบ รักแผ่นดินยิ่งชีพ เป็นผู้นำชาวบ้าน 400 คน เข้าต่อกรกับทัพพม่าเพียงลำพัง



คำขวัญประจำจังหวัดประจวบคิรีขันธ์


" โรงสีข้าวพระราชทาน ตำนานเขาตาม่องล่าย หลากหลายกสิกรรม พระนอนใหญ่เขาถ้ำ วีรกรรมขุนรองปลัดชู "

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

ประกาศรับสมัครงาน : บริษัท มิซูฟูโซ่ พิษณุโลก



บริษัท พิษณุโลก ทรัคออโต้เซลล์ จำกัด (มิตซูฟูโซ่)
ตำแหน่งที่ต้องการ
· พนักงานบัญชีการเงิน
· พนักงานขาย
· พนักงานฝ่ายบริการ / พนักงานต้อนรับ
· พนักงานฝ่ายอะไหล่
· พนักงานช่างยนต์

รับสมัครจำนวนมาก ไม่จำกัดจำนวน ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ มีสวัสดิการ เงินเดือน ค่าน้ำมัน ค่าคอมมิชชั่น รายเดือน

ติดต่อได้ที่ : บริษัท พิษณุโลก ทรัคออโต้เซลล์ จำกัด (มิตซูฟูโซ่)
เลขที่ 54/1 หมู่ที่ 9 ถนนพิษณุโลก – นครสวรรค์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยนเรศวร (หนองอ้อ) โทร.055-227200-2 , 087-5204762 , 089-0028182 ฝ่ายบุคคล

ในหลวงในดวงใจ คือแรงบันดานใจไทยทุกคน



วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

โครงการ ปั่นจักรยานเพื่อน้องปีที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก

โครงการ ปั่นจักรยานเพื่อน้องปีที่ ๓ จังหวัดพิษณุโลก

โดย โครงการทำดีทุกวันจากดีแทค และ DFM

หลักการ และเหตุผล

สภาพสังคมและเศรษฐกิจที่รุกเร้าชีวิตประจำวันของทุกผู้คนขณะนี้ มีส่วนผลักดันให้เราคิดถึงผู้คนรอบข้างมากขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมโยง และเห็นใจกันและกันในสังคม แนวคิดของโครงการขี่ (จักรยาน) ให้ไกล แลกรถ (จักรยาน) ใหม่ให้น้อง เริ่มจากการขี่จักรยานในชีวิตประจำวัน และเพื่อออกกำลังกาย จนเป็นที่มาของกิจกรรมแลกระยะทาง กับจักรยาน เพื่อน้อง ๆ ในพื้นที่ห่างไกล รูปแบบกิจกรรมโครงการขี่ (จักรยาน) ให้ไกล แลกรถ (จักรยาน) ใหม่ให้น้อง เป็นโครงการต่อเนื่อง
โดยทุกระยะทาง 1 กิโลเมตร ผู้สนับสนุนโครงการพร้อมบริจาค ๑๐ บาท ๑ คนขี่จักรยาน ๑ กิโลเมตรได้เงินสนับสนุน ๑๐ บาท ซึ่งถ้ามีผู้ร่วมขี่จักรยานในคราวเดียวกัน ๕๐ คน คนละ๑ กิโลเมตรเท่ากับว่า จังหวัดนี้ได้ระยะทาง ๕๐ กิโลเมตร และถ้ามีคนขี่จักรยานในโครงการนี้มากขึ้น และในระยะทางที่ไกลขึ้น จักรยานสำหรับน้อง ๆ ในพื้นที่ห่างไกลจะมากขึ้นไปด้วย (ไม่เกิน ๒๐๐ คัน) วัตถุประสงค์- เพื่อจัดหาจักรยานให้กับเด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อใช้ในการเดินทางไปโรงเรียน แทนการเดินทางด้วยเท้าเป็นระยะทางไกลหรือใช้บริการรถสาธารณะซึ่งมีค่าใช้จ่าย - สนับสนุนกิจกรรม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม และรักษาสุขภาพ- เป็นการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนที่ปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน

ชมรมปั่นจักรยาน และประชาชนทั่วไป

เส้นทาง : เก็บระยะทางวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔

เส้นทางปั่นเก็บระยะทาง -เริ่มปั่นจากอบต.หัวรอ-ผ่านเซเว่น-เลี้ยวขาวตรงสัญญาณไฟจราจร-ขึ้นถนนวัดโบสถ์-พิษณุโลก-ถึงแยกเต็งหนาม-เลี้ยวขาวไปถนนเอกาทศรถ-ผ่านหน้าสนามกีฬาจังหวัดพิษณุโลก-ผ่านหลังวัดใหญ่-ผ่านห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์-เลี้ยวซ้ายลอดใต้สะพานแล้วขึ้นถนนสิงหวัฒน์-ขึ้นสะพานนเรศวร-เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวังจันทร์-ผ่านศาลจังหวัด-ผ่านวิทยาลัยอาชีวศึกษา-ผ่าน ม.ราชภัฏฯวังจันทร์-เลี้ยวขาวขึ้นถนนเอกาทศรถ-ถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจร-เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาอุทิศ-ผ่านสรรพสามิต-ตรงไปจนถึงสามแยกให้เลี้ยวซ้าย-ผ่านวัดจันทร์ตะวันตก-ขึ้นสะพานพระสุพรรณกัลยา-ผ่านวัดจันทร์ตะวันออก-ผ่านถนนเด็กเดิน(ถนนสังฆบูชา)-ถึงสัญญาณไฟจราจรเลี้ยวซ้าย-เข้าถนนบรมไตรโลกนารถ-ผ่านดีแทค-ผ่านโรงพยาบาลอินเตอร์เวชการ-ถึงหอนาฬิกา-ถึงสี่แยกสถานีตำรวจเลี้ยวขาวถึงวงเวียนรถไฟ-ผ่านหน้าสถานีรถไฟ-เลี้ยวซ้ายเลียบถนนทางรถไฟ-เลี้ยวขาวผ่านทางรถไฟ-เลี้ยวซ้ายเข้าถนนธรรมบูชา-ผ่านหน้ามัสยิด-ตรงไปถนนธรรมบูชา-ผ่านโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา-ผ่านโรงเรียนผดุงราษฎร์-ตรงไปจนถึงแยกวัดมะขามเตี้ย-เลี้ยวซ้ายไปแยกเต็งหนาม-สัญญาณไฟจราจร-ตรงไปถนนพิษณุโลก-วัดโบสถ์ -จนถึงแยกทางเข้า อบต.หัวรอ-เลี้ยวซ้ายถึงจุดหมายปลายทาง อบต.หัวรอ (ตามแผนที่แนบ)


โหลดแผ่นที่เส้นทางได้ที่นี่ http://www.zidofile.com/rOes1B

เส้นทางวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔
เส้นทางปั่นระยะใกล้ –ลอดใต้สะพานสูง-ถนนเอกาทศรถ-ผ่านสถานีรถไฟ-ตรงไปเลี้ยวซ้ายผ่านทางรถไฟ-ถนน...-ตรงไป-ถึงแยกสนามบิน-เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าแขวงการทางจังหวัดพิษณุโลก-ห้าแยกโคกมะตูม-ตรงไป-ผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี-ถึงแยกเรือนแพ-เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมิตรภาพ-ตรงไป-ผ่านโรงแรมรัตนาปาร์ค-ผ่านปั้มพยงค์ปิโตรเลียม-แยกขนส่ง-ตรงไป-ผ่านปีนังค้าวัสดุก่อสร้าง-ผ่านวิทยาลัยพาณิชยการพิษณุโลก-ผ่านมัสยิด-ลอดใต้สะพานสูงไปทางขาว-ตรงไปถนนธรรมบูชา-ผ่านโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา-ผ่านโรงเรียนผดุงราษฎร์-ตรงไปจนถึงแยกวัดมะขามเตี้ย-เลี้ยวซ้ายมาทางสัญญาณไฟ-ตรงไปจนถึงแยกทางเข้า อบต.หัวรอ-เลี้ยวซ้ายถึงจุดหมายปลายทาง อบต.หัวรอ รวมระยะทางไป-กลับ จำนวน ๒๐ กม.

เส้นทางปั่นระยะไกล-มุ่งหน้าสู่สี่แยกอินโดจีน-ถึงสี่แยกอินโดจีนเลี้ยวซ้ายไปทางอ.วัดโบสถ์-ผ่านแยกประโดก- ตรงไป - ขึ้นสะพาน อ.วัดโบสถ์ - กลับรถใกล้ร้านดีเนาะ - กลับรถแล้วผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวพรศรี-เลี้ยวซ้ายป้อมตำรวจไปทาง ต.ท่างาม-ตรงไปเรื่อยๆ – แยกขาวไปเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน-อีก ๑๓ กม.ถึงเขื่อนแควน้อย-ไปกลับรถบริเวณวงเวียนพระอินทร์ขี่ช้าง-ถ่ายรูปร่วมกันบริเวณวงเวียนพระอินทร์ขี่ช้าง-กลับรถมาที่สวนหย่อมซ้ายมือ-รับประทานอาหาร-พักผ่อน-และเดินทางกลับเส้นทางเดิม (ตามแผนที่แนบ)


โหลดแผ่นที่ระยะได้ที่นี้ http://www.zidofile.com/wm3xqJ

รวมระยะทางไป-กลับ จำนวน ๑๘๐ กม.

วันที่จัดโครงการ DFM 92.50 MHz ร่วมด้วยช่วยกัน จ.พิษณุโลก คลื่นความดี
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๖.๐๐ น. เป็นต้นไป


ประมวลภาพกิจกรรมหลังจัดงาน

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

เตรียมเปิดตัว ฟอร์ดสองแควพิษณุโลก 26 มีนาคม 2554

บริษัท อุทัยยนตการ จำกัด ฟอร์ดสองแควพิษณุโลก
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 185 หมู่ที่ 4 ตำบลสมอแข อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

เตรียมเปิดตัวโชว์รูม จังหวัดพิษณุโลก จัดงานไทยย้อนยุค งานวัด วันเสาร์ 26 มีนาคม 2554
พบกับ แคมแปญพิเศษฟอร์ด ทุกรุ่น ร่วมประมูลรถผู้บริหารและรถทดลองขับ ราคาพิเศษ!
ลุ้นรางวัลใหญ่มากมาย
ซุ้มอาหาร เครื่องดื่ม ดนตรี ซุ้มเกมส์ ฟรี! ตลอดงาน และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
จองฟอร์ดทุกรุ่นวันนี้ ลุ้นรับทองคำมูลค่า 100,000 บาท

ร่วมประกวดหนูน้อยเฟียสต้า อายุ 5-7 ปี แต่งกายไทยย้อนยุค รางวัลชนะเลิศ 2,000 บาท 2 รางวัล สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 26 มีนาคม 2554(ยื่นใบสมัครหน้างาน) ที่โชว์รูม ฟอร์ดสองแคว พิษณุโลก (ตรงข้ามวัดสมแข)

คุณสมบัติผู้สมัคร
1. จะต้องมีอายุระหว่าง 5 - 7 ปี เท่านั้น
2. การแต่งกาย ในชุดสไตล์ไทยย้อนยุค เช่น พี่คร้าว ทองกวาว ฯลฯ

หลักเกณฑ์การสมัคร
1. สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ และยื่นใบสมัครในวันงานวันที่ 26 มีนาคม 2554 นี้เท่านั้น
2. สามารถส่งใบสมัครได้ที่ บ.อุทัยยนตการ จก. (ฟอร์ด สองแคว พิษณุโลก)
3. ประกวดรอบชิงชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 ณ บ.อุทัยยนตการ จก. (ฟอร์ด สองแคว พิษณุโลก)
ตรงข้ามกับวัดสมอแข ทางเข้าบึงราชนก

หลักฐานการสมัคร
1. ใบสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน
2. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ส่งเข้าประกวด
3. สำเนาใบสูจิบัตร / บัตรประจำตัวนักเรียน ของผู้เข้าแข่งขัน

เกณฑ์การพิจารณาตัดสิน
1. การแต่งกาย พิจารณาจากการแต่งกายที่สวยงาม และเข้ากับบรรยายกาศของงานสไตล์ไทยย้อนยุค

รางวัลที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับ
- รางวัลชนะเลิศ (ชาย) เงินรางวัลมูลค่า 2,000 บาท
- รางวัลชนะเลิศ (หญิง) เงินรางวัลมูลค่า 2,000 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
ฟอร์ดสองแคว พิษณุโลก
โทร. 055 -987700-2, 083-3295774, 087-7365428 โทรสาร.055 -987703
ติดต่อคุณ กันยารัตน์ , คุณสมหญิง E – Mail: 32400.dlr@gmail.com
และ 081-9721146 คุณธาราพร จริยานุวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายขาย
โหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่ http://www.zidofile.com/NabZK5

วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ไทยมาร์ท แจกทองจากใจ : วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554

รางวัลที่ 1 ทองคำหนัก 10 บาท 1 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท รวมมูลค่า 200,000 บาท


  • คุณสวัสดิ์ วงศ์ด้าว 137 ม.12 ต.บ้านแค่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย


รางวัลที่ 2 ทีวี LCD 40 นิ้ว 1 รางวัล รางวัลละ 29,990 บาท รวมมูลค่า 29,990 บาท



  • คุณนันทนา คาคาน 12/10 ม.3 ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์


รางวัลที่ 3 คอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊ค 2 รางวัล รางวัลละ 19,900 บาท รวมมูลค่า 39,800 บาท



  • คุณลำแพน จันทร์ทา 55 ม.7 ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณธีร์นภัทร บางหลวง 413/7 ม.9 ต.โพทะเล จ.พิจิตร

รางวัลที่ 4 โทรศัพท์มือถือ Black Berry 3 รางวัล รางวัลละ 15,900 บาท รวมมูลค่า 47,700 บาท



  • คุณเอกชัย คำเพ็ง 72/1 ม.4 อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

  • คุณสมเกียรติ นภาศิริปกรณ์ 100 ม.2 ต.วัดจันทร์ หมู่บ้านบัวสีเงิน อ.เมือง จ.พิษณุโลก

  • คุณณัฐพงษ์ การะหงษ์ 3574/13 ถ.สีหราชเดโชชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

รางวัลที่ 5 เครื่องเล่น DVD บลูเรย์ 5 รางวัล รางวัลละ 7,990 บาท รวมมูลค่า 39,950 บาท



  • คุณอัมราภรณ์ มั่นอิ่ม 40/3 ม.2 ต.ป่าเช่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณอรุณวัฒน์ อุยยะพัฒน์ 99/2 ม.13 ต.ผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณณิภาภัช นุ่มเอี่ยม 71/33 ถ.เจษฏาบดินทร์เหนือ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณนเรศ หาญชเล 238/88 ถ.บรมไตรโลกนารถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

  • คุณธีรชัย เรืองบัณฑิต 20 ถ.เพ็ญศรี อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร

รางวัลที่ 6 ตู้เย็น 5 รางวัล รางวัลละ 5,490 บาท รวมมูลค่า 27,450 บาท



  • คุณพรทิพย์ เขื่อนโรจน์ 21 ม.1 ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณคุณสุภักดิ์ กุลพรม 20/1 ม.8 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

  • คุณทวีภาค พุกรอด 108/3 ม.5 ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

  • คุณบุญชินพร งามฉลวย 10/2 ถ.สมานมิตร ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณจิราบรรณ นิ่มอนงค์ 54/4 ม.15 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

รางวัลที่ 7 แฟลตไดร์ 20 รางวัล รางวัลละ 199 บาท รวมมูลค่า 3,980 บาท



  • คุณนันทิกร ใจนิ่ม 259/35 ถ.สำราญรื่น ซ.9 ต.ท่าอิฐ อ.เมืองจ.อุตรดิตถ์

  • คุณกำมะหยี่ ฟักเงิน 21 ม.1 ต.ป่าเช่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณธรรมชาติ ใจนิ่ม 259/35 ถ.สำราญรื่น ซ.9 ต.ท่าอิฐ อ.เมืองจ.อุตรดิตถ์

  • คุณวันดี ใจนิ่ม 259/35 ถ.สำราญรื่น ซ.9 ต.ท่าอิฐ อ.เมืองจ.อุตรดิตถ์

  • คุณปิยนุช เพ็งวัน 106/4 ม.4 ต.ทุ่งยั้ง อ.สัมพล จ.อุตรดิตถ์

  • คุณเตือน พิมพ์จันทร์ 373 ม. 4 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณโอภาส อนุโวหาร 211 ม.9 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณแก้วตา เสาร์มา 24 ม. 1 ต.หาดสองแคว อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์

  • คุณกานต์ เจริญยิ่ง 128/1 ม.5 ต.บ้านเกาะ จ.อุตรดิตถ์

  • คุณสุนีย์ ปิ่นทรายมูล 27 ถ.อินใจมี ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณวนิดา สุวรรณศรี 31/2 ม.11 ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์

  • คุณพิเชษฐ์ มูลจันทร์ 34 ม.3 ต.บ้านนารวม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณรัชนี นันทารมณ์ 93/1 ม.4 ต.คุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

  • คุณปิยะพงษ์ พรกระแส 184 ม.1 ต.วังฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

  • คุณภูริณัฐ แสงเหมือนขวัญ 665 ม.1 ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

  • คุณวรินทร ศรีเกิด 435 ม.3 ต.ศรีนคร อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย

  • คุณสายพิณ ศรีรัตนาภิวฒน์ 1711/12 ม.1 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร

  • คุณสายันต์ พูลจันทร์ 1333 ม.3 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี

  • คุณชัยณรงค์ พงศ์จิระปัญญา 94 ม.10 ต.น้ำผาง อ.แม่ริม จ.น่าน

  • คุณขนิษฐา ก่อสุมพันธ์ 634/21 ต.อินทร์ศรี อ.แม่สอด จ.ตาก